#การแข่งขัน : Blue Sapphire Golf CUP 2020 # 4
#ผูจัด : Blue Sapphire

#Course Detail : Blue Sapphire Golf and Resort OCEAN C D การตัดสิน

1

นักกอล์ฟที่ทำคะแนนรวม Stable Ford มากที่สุดเป็นผู้ชนะ หากมีผู้ทำคะแนนเสมอกัน นักกอล์ฟที่มีแต้มต่อน้อยกว่าจะเป็นผู้ชนะ

2

หากผลการตัดสินยังคงเสมอกัน ให้เปรียบเทียบคะแนนรวม Stable Ford เก้าหลุมสุดท้าย (10-18), หกหลุมสุดท้าย (13-18), สามหลุมสุดท้าย (16-18) จนกว่าจะปรากฎผลแพ้ชนะ

3

หากผลการตัดสินยังคงเสมอกันอีก ให้เปรียบเทียบคะแนนสุทธิ (Gross Score) เป็นรายหลุมย้อนหลังตั้งแต่หลุม 18 ไปถึงหลุม 1 จะกว่าจะ ปรากฎผลแพ้ชนะ

หมายเหตุ ใช้ในการหาเพิ่มเติม แบบ Gross Score , Net Score

หมายเหตุ

การตัดสินผลแพ้ชนะ 1. Gross Score (ในกรณีมีการมอบรางวัลชนะเลิศ Gross Score) ผู้ที่ทำคะแนน Gross Score ต่ำ ที่สุดเป็นผู้ชนะ หาก Gross Score เท่ากันผู้ที่มีแต้มต่อสูงกว่าเป็นผู้ชนะ หากยังเท่ากันอีกผู้ที่ทำ คะแนนรวม 9 หลุมหลัง (รอบ In) น้อยกว่าเป็นผู้ชนะ หากยังเท่ากันอีกจะเทียบคะแนนย้อนหลัง หลุมต่อหลุมจากหลุม 18 ลงมา ใครทำสโตรคได้ต่ำกว่าเป็นผู้ชนะ

หมายเหตุ

การตัดสินผลแพ้ชนะ 2. Net Score ผู้ที่ทำคะแนน Net Score ต่ำที่สุดจะเป็นผู้ชนะ หาก Net Score เท่ากันผู้ที่มีแต้ม ต่อน้อยกว่าเป็นผู้ชนะ หากยังเท่ากันอีกผู้ที่ทำคะแนนรวม 9 หลุมหลัง (รอบ In) น้อยกว่าเป็นผู้ ชนะ หากยังเท่ากันอีกจะเทียบคะแนนย้อนหลังหลุมต่อหลุมจากหลุม 18 ลงมา ใครทำสโตรคได้ ต่ำกว่าเป็นผู้ชนะ

แต้มต่อ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24

การหาแต้มต่อในระบบ 36 System

 

วิธีการคิดแต้มต่อโดยใช้ระบบ 36 System นั้นจะเป็นการหาแต้มต่อของผู้เล่นอีกวิธีหนึ่งที่นิยม กันอย่างแพร่หลาย และนับว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ดีในการกำหนดแต้มต่อของผู้เล่น

วิธีการคิด

                                       

1. ในการคิดนั้นจะกำหนดให้ในแต่ละหลุมมีคะแนนดังนี้ หากผู้เล่นทำพาร์, เบอร์ดี้, อีเกิ้ล, หรืออัลบา ทอซ จะได้ 2 คะแนน หากผู้เล่นทำโบกี้ จะได้ 1 คะแนน และถ้าผู้เล่นทำสกอร์มากกว่าโบกี้จะไม่ได้ คะแนนในหลุมนั้น

2. เมื่อผู้เล่นเล่นจบครบ 18 หลุม ก็ให้นำเอาคะแนนที่ได้ในแต่ละหลุมมารวมกัน แล้วนำไปลบ 36 จะ ได้เป็นค่าแต้มต่อออกมาซึ่งจะมีค่าตั้งแต่ 0-36 แต่ในการแข่งขันของ SINGHA AMATEUR GOLF CIRCUIT นั้น กำหนดค่าแต้มต่อสูงสุดไว้ไม่เกิน 24

                                             

ตัวอย่าง

                                       

HOLE

 

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

     

PAR

4

4

3

5

3

4

5

4

4

4

4

3

4

5

4

4

3

5

     

SCORE

 

6

6

5

4

4

3

5

5

6

7

4

3

3

6

4

3

4

5

 

HCP.

POINT

 

0

0

0

2

1

2

2

1

0

0

2

2

2

1

2

2

1

2

22

14

 
 

จากตารางจะเห็นว่าคะแนนที่ทำได้ทั้ง 18 หลุม รวมกันจะเท่ากับ 22 เมื่อนำไปลบกับ 36 จะ เหลือ 14 ดังนั้น นักกอล์ฟท่านนี้จะมีแต้มต่อเท่ากับ 14

การคิดคะแนนในระบบ Stable Ford

                           
 

เป็นการแข่งขันที่คิดคะแนนรวมทั้ง 18 หลุม โดยในแต่ละหลุมจะมีคะแนนดังนี้

           
  -

ในหลุมใดๆ หากนักกอล์ฟทำน้อยกว่าอีเกิ้ล

   

จะได้ 5 คะแนน

           
  -

ในหลุมใดๆ หากนักกอล์ฟทำอีเกิ้ล

       

จะได้ 4 คะแนน

           
  -

ในหลุมใดๆ หากนักอล์ฟทำเบอร์ดี้

       

จะได้ 3 คะแนน

           
  -

ในหลุมใดๆ หากนักกอล์ฟทำพาร์

       

จะได้ 2 คะแนน

           
  -

ในหลุมใดๆ หากนักกอล์ฟทำโบกี้

       

จะได้ 1 คะแนน

           
   

ในหลุมใดๆ หากนักกอล์ฟทำดับเบิ้ลโบกี้หรือมากกว่า จะไม่ได้คะแนน

             
   

นักกอล์ฟทุกคนจะได้รับหลุมต่อตาม HC โดย HC ของนักกอล์ฟแต่ละคนจะหาจะหาโดยระบบ

   
   

36 System ซึ่งคะแนน Stable Ford ของหลุมต่อนั้นจะเพิ่มขึ้นอีก 1 คะแนน ดังนี้

       
  -

ในหลุมใดๆ หากนักกอล์ฟทำน้อยกว่าอีเกิ้ล

   

จะได้ 6 คะแนน

           
  -

ในหลุมใดๆ หากนักกอล์ฟทำอีเกิ้ล

       

จะได้ 5 คะแนน

           
  -

ในหลุมใดๆ หากนักอล์ฟทำเบอร์ดี้

       

จะได้ 4 คะแนน

           
  -

ในหลุมใดๆ หากนักกอล์ฟทำพาร์

       

จะได้ 3 คะแนน

           
  -

ในหลุมใดๆ หากนักกอล์ฟทำโบกี้

       

จะได้ 2 คะแนน

           
  -

ในหลุมใดๆ หากนักกอล์ฟทำดับเบิ้ลโบกี้

   

จะได้ 1 คะแนน

           
 

การคิดคะแนน นักกอล์ฟที่ทำคะแนนรวม Stable Ford มากที่สุดเป็นผู้ชนะ

           

การหาจำนวนหลุมต่อของการคิดคะแนนระบบ STABLE FORD

     

จำนวนหลุมต่อจะหาโดยการคิด 75% ของ HC.ที่หาได้จากระบบ 36 System โดยหลุมต่อที่ได้จะมี จำนวนสูงสุดที่ 18 หลุม

     
PGST : Professional Goft Systems Thailand © 2016 [http://www.live-scorereport.com,
หลุมต่อ 1 2 2 3 4 5 5 6 7 8 8 9 10 11 11 12 13 14 14 15 16 17 17 18
หลุ่มได้ต่อ 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15
12 12 12 12 12 12 12 12 12 12 12 12 12 12 12 12 12 12 12 12 12 12 12
13 13 13 13 13 13 13 13 13 13 13 13 13 13 13 13 13 13 13 13 13
14 14 14 14 14 14 14 14 14 14 14 14 14 14 14 14 14 14 14 14
9 9 9 9 9 9 9 9 9 9 9 9 9 9 9 9 9 9 9
11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11
2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2
10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10
16 16 16 16 16 16 16 16 16 16 16 16 16
1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1
18 18 18 18 18 18 18 18 18 18 18
8 8 8 8 8 8 8 8 8
4 4 4 4 4 4 4 4
5 5 5 5 5 5 5
7 7 7 7 7
3 3 3 3
17 17 17
6